Mydiary
ความทรงจำที่ยังไม่เลือนหาย วันนี้คือวันที่ เพื่อนๆ ห้อง 6/2 ไปลั้นลาที่”หาดปากเมง”ก่อนจบการศึกษาจากมัธยมศึกษาปีที่ 6 เป็นวันที่ทุกคนมีความสุขที่ได้ไปเที่ยวกันอย่างพร้อมหน้าพร้อมตากันทุกคนในชั้นเรียน พอไปถึงที่ทะเลทุกคนจะพูดว่าถึงแล้วเหรอเนี่ย ถึงโดยไม่รู้ตัวเพราะมัวแต่แดนซ์กันอยู่ในรถเมย์ พอลงจากรถเมย์ถึงเพื่อนๆก็มีอาการหิว เราก็กินอาหารกันอย่างสนุกสนาน ด้วยบรรยากาศที่สดใส และด้วยการกินที่ต้องสลับกันกินเพราะช้อนไม่พอ พอกินเสร็จต่างคนต่างอยู่นิ่งไม่ได้แล้ว เพราะจะเล่นน้ำกันสักที่เดียว ทุกคนจะไปเล่นน้ำด้วยกันัออย่างสนุกสนานจนตะวันตกดิน และถึงเวลาที่จะกลับบ้านแล้ว เพื่อน ๆ ทุกคนจะเดินจับมือกันเป็นแถวลงไปในทะเล พร้อมพูดกันว่า “หกทับสองจะรักกันตลอดไป” และเพื่อนๆ ก็จะเดินกันไปขึ้นรถเมย์ที่จะกลับบ้าน พอขึ้นรถทุกคนจะไม่นั่ง ทุกคนพร้อมที่จะแดนซ์กันต่อ และพูดว่าขอเพลงหน่อย เพื่อนๆทุกคนแดนซ์กันอย่างเมามันด้วยเสียงเพลง พอถึงจุดหมายปลายทางที่ทุกคนต้องลงจากรถเมย์ ต่างคนต่างไม่อยากลงเพราะอยากอยู่กันนานๆ อีก แต่จำเป็นที่ต้องลงกันทุกคนและเพื่อนๆก็จะพูดกันว่าเดียวค่อยไปเที่ยวกันอีกนะ ที่นี้เราจะไปกันหลายที่และหลายคืนเลยนะ ทุกคนกลับบ้าน
Mydiary
3 ปี ที่เราเจอกันและวันนี้เป็นโอกาสที่ดีที่เราได้ไปเที่ยวกันที่หาดปากเมง จากที่ได้คบกันมาเป็นเวลาระยะสามปีที่ผ่านมา นี้เป็นครั้งที่สองที่เราได้ไปเที่ยวกันที่หาดปากเมง ความฝันของเราเป็นจริงแล้ว เพราะเคยพูดกันหลายครั้งแล้วแต่ไม่เคยได้ไปสักที่ ครั้งนี้ไปสนุกมากๆ เพราะพาน้องๆปีสองไปเที่ยวด้วย และเป็นโอกาสที่ดีที่เรามีเวลาพร้อมกันที่จะไปเที่ยวในครั้งนี้ และเราทุกคนเที่ยวกันอย่างมีความสุข
3 ปี ที่เราเจอกันและวันนี้เป็นโอกาสที่ดีที่เราได้ไปเที่ยวกันที่หาดปากเมง จากที่ได้คบกันมาเป็นเวลาระยะสามปีที่ผ่านมา นี้เป็นครั้งที่สองที่เราได้ไปเที่ยวกันที่หาดปากเมง ความฝันของเราเป็นจริงแล้ว เพราะเคยพูดกันหลายครั้งแล้วแต่ไม่เคยได้ไปสักที่ ครั้งนี้ไปสนุกมากๆ เพราะพาน้องๆปีสองไปเที่ยวด้วย และเป็นโอกาสที่ดีที่เรามีเวลาพร้อมกันที่จะไปเที่ยวในครั้งนี้ และเราทุกคนเที่ยวกันอย่างมีความสุข
Mydiary
รักอย่างไร ไม่เป็นทุกข์
1.ควรมีความสุขได้ด้วยตัวเอง คนอื่นเป็นเพียงโบนัสที่เพิ่มเข้ามา
2.ควรปรารถนาให้ผู้อื่นเกิดสุขด้วย ไม่ใช่คิดถึงแต่ความสุขของเรา เช่น เมื่อคนที่เรารักไม่รักเรา แต่เขามีความสุขของเขา แม้เราจะเศร้าก็ยังคิดได้ว่า อย่างน้อยก็ได้เห็นคนที่เรารักมีความสุข
3.ลดความคาดหวัง แม้เราจะเป็นปุถุชนซึ่งคงตัดความคาดหวังไม่ได้ แต่ถ้าเรายิ่ง คาดหวังจากอีกฝ่ายน้อย โอกาสที่เราจะสมหวังก็ยิ่งมากขึ้น
4.ยอมรับความแตกต่าง ทั้งด้านสรีระและความคิดของผู้อื่น ความคิดไม่ตรงกันนั้น ถือเป็นเรื่องธรรมชาติ หากฝ่ายหนึ่งไม่พยายามทำให้อีกฝ่ายคิดเหมือนกัน และพยายามเข้าใจว่าเหตุใดจึงคิดต่างกัน ปัญหาก็จะไม่เกิด หากเข้าใจและยอมรับได้แล้ว เมื่อเห็นเขาทำตัวไม่ถูกใจ ไม่น่ารัก ขี้บ่น ใจร้อน เราก็จะปรับตัวให้เข้ากับเขาและมอบความรักให้ได้ง่ายขึ้น
5.รู้จักยอมรับความเปลี่ยนแปลงต่างๆ ความรักจึงจะยืนยาว เพราะความเปลี่ยนแปลงเป็นธรรมดาของโลก เพลงโปรด ฟังซ้ำ อาหารจานประจำ กินบ่อยก็เบื่อ ความรักที่เคยจี๋จ๋าหวานแหวว อาจจืดจางลง แต่ยังคงความผูกพันและสัมพันธ์อันดี หรือแม้จะเลิกราร้างห่าง บางคู่ก็ยังเป็นเพื่อนรู้ใจต่อกันได้
6.ไม่ควรทำแต่สิ่งที่ตัวเองชอบ หรือสิ่งที่ตนคิดว่าดีให้คนอื่นเพียงอย่างเดียว จะต้องมองถึงความต้องการของเขาด้วย จะได้ไม่ต้องมาน้อยใจว่าเราอุตส่าห์หวังดี ยอมเหน็ดเหนื่อยทำเพื่อเขา แต่เขากลับไม่เห็นคุณค่า
7.ความเกรงใจ เป็นองค์ประกอบสำคัญ ควรเอาใจเขามาใส่ใจเรา เพราะคนใกล้ชิดสนิทกัน มักคิดว่าจะสามารถทำอะไรตามใจตัวได้แทบทุกเรื่อง จนลืมนึกถึงความรู้สึกของอีกคนไป
8.พูดจาชื่นชมในสิ่งดีของกันและกัน เป็นอีกหนึ่งวิธีมอบความรักที่ควรทำ บางคนละเลยว่าอยู่ด้วยกันมานาน เรื่องดีเขาคงรู้อยู่แล้วไม่ต้องชม จึงเอาแต่พูดถึงสิ่งไม่ดีหรืออยากให้อีกฝ่ายเปลี่ยนแปลง เอาแต่บ่นโดยไม่เคยชม คนฟังก็ท้อใจเหมือนกัน
9.การแสดงออกของความรัก ถ้ารักแล้วไม่แสดงออกเลยอีกฝ่ายคงไม่รู้ เพราะเขาไม่มีตาทิพย์แต่การแสดงความรู้สึกแค่ไหน อย่างไร คงต้องดูว่าเป็นสิ่งที่อีกฝ่ายต้องการด้วย ส่วนความต้องการของเราก็ควรบอกตรงๆ ไม่ใช่คาดหวังให้คู่ของเราเป็นหมอดู คอยเดาใจ
1.ควรมีความสุขได้ด้วยตัวเอง คนอื่นเป็นเพียงโบนัสที่เพิ่มเข้ามา
2.ควรปรารถนาให้ผู้อื่นเกิดสุขด้วย ไม่ใช่คิดถึงแต่ความสุขของเรา เช่น เมื่อคนที่เรารักไม่รักเรา แต่เขามีความสุขของเขา แม้เราจะเศร้าก็ยังคิดได้ว่า อย่างน้อยก็ได้เห็นคนที่เรารักมีความสุข
3.ลดความคาดหวัง แม้เราจะเป็นปุถุชนซึ่งคงตัดความคาดหวังไม่ได้ แต่ถ้าเรายิ่ง คาดหวังจากอีกฝ่ายน้อย โอกาสที่เราจะสมหวังก็ยิ่งมากขึ้น
4.ยอมรับความแตกต่าง ทั้งด้านสรีระและความคิดของผู้อื่น ความคิดไม่ตรงกันนั้น ถือเป็นเรื่องธรรมชาติ หากฝ่ายหนึ่งไม่พยายามทำให้อีกฝ่ายคิดเหมือนกัน และพยายามเข้าใจว่าเหตุใดจึงคิดต่างกัน ปัญหาก็จะไม่เกิด หากเข้าใจและยอมรับได้แล้ว เมื่อเห็นเขาทำตัวไม่ถูกใจ ไม่น่ารัก ขี้บ่น ใจร้อน เราก็จะปรับตัวให้เข้ากับเขาและมอบความรักให้ได้ง่ายขึ้น
5.รู้จักยอมรับความเปลี่ยนแปลงต่างๆ ความรักจึงจะยืนยาว เพราะความเปลี่ยนแปลงเป็นธรรมดาของโลก เพลงโปรด ฟังซ้ำ อาหารจานประจำ กินบ่อยก็เบื่อ ความรักที่เคยจี๋จ๋าหวานแหวว อาจจืดจางลง แต่ยังคงความผูกพันและสัมพันธ์อันดี หรือแม้จะเลิกราร้างห่าง บางคู่ก็ยังเป็นเพื่อนรู้ใจต่อกันได้
6.ไม่ควรทำแต่สิ่งที่ตัวเองชอบ หรือสิ่งที่ตนคิดว่าดีให้คนอื่นเพียงอย่างเดียว จะต้องมองถึงความต้องการของเขาด้วย จะได้ไม่ต้องมาน้อยใจว่าเราอุตส่าห์หวังดี ยอมเหน็ดเหนื่อยทำเพื่อเขา แต่เขากลับไม่เห็นคุณค่า
7.ความเกรงใจ เป็นองค์ประกอบสำคัญ ควรเอาใจเขามาใส่ใจเรา เพราะคนใกล้ชิดสนิทกัน มักคิดว่าจะสามารถทำอะไรตามใจตัวได้แทบทุกเรื่อง จนลืมนึกถึงความรู้สึกของอีกคนไป
8.พูดจาชื่นชมในสิ่งดีของกันและกัน เป็นอีกหนึ่งวิธีมอบความรักที่ควรทำ บางคนละเลยว่าอยู่ด้วยกันมานาน เรื่องดีเขาคงรู้อยู่แล้วไม่ต้องชม จึงเอาแต่พูดถึงสิ่งไม่ดีหรืออยากให้อีกฝ่ายเปลี่ยนแปลง เอาแต่บ่นโดยไม่เคยชม คนฟังก็ท้อใจเหมือนกัน
9.การแสดงออกของความรัก ถ้ารักแล้วไม่แสดงออกเลยอีกฝ่ายคงไม่รู้ เพราะเขาไม่มีตาทิพย์แต่การแสดงความรู้สึกแค่ไหน อย่างไร คงต้องดูว่าเป็นสิ่งที่อีกฝ่ายต้องการด้วย ส่วนความต้องการของเราก็ควรบอกตรงๆ ไม่ใช่คาดหวังให้คู่ของเราเป็นหมอดู คอยเดาใจ